18555 จำนวนผู้เข้าชม |
ค่าใช้จ่ายในเรื่องสุขภาพของเด็กแรกเกิดจะค่อนข้างสูง หากเราเปรียบเทียบเบี้ยประกันสุขภาพในแบบที่เหมือนกัน แต่ต่างช่วงอายุของเด็ก ระหว่างเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุ 10 ขวบ ช่วงเวลาที่เบี้ยประกันสุูงที่สุดคือ ตอนเป็นเด็กเล็ก และเบี้ยจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นเบี้ยที่ถูกที่สุดเมื่ออายุประมาณ 18 ปีค่ะ
เบี้ยประกันเด็กหญิง อายุ 30 วัน
อายุ 30 วันถือว่าเป็นช่วงที่จะมีเบี้ยประกันสูงที่สุดในกลุ่มของประกันสุขภาพเด็ก แต่ที่แนะนำให้ทำตั้งแต่อายุ 30 วัน ก็เพื่อที่จะให้เด็กมีประกันสุขภาพดูแลอย่างครอบคลุมที่สุด ยิ่งทำช้า โอกาสที่เด็กจะเกิดโรคขึ้นมาก่อนที่จะทำประกันก็จะยิ่งมีมากขึ้น และโรคที่เป็นมาก่อน ประกันจะไม่คุ้มครองหรือที่เรียกว่าเป็นการคุ้มครองแบบยกเว้นโรคนั่นเอง
วางแผนดอทคอมขอนำเสนอโครงการสุขภาพเด็กคุ้มๆ โดยยกตัวอย่างเบี้ยประกันของเมืองไทยประกันชีวิตสำหรับเด็กหญิง อายุ 30 วันนะคะ
ในตารางนี้จะแยกเป็นแต่ละรายการออกจากกันชัดเจน คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกแต่ละส่วนได้ค่ะ (ถ้าเด็กอายุน้อยกว่านี้ เบี้ยจะลดลงแบบขั้นบันได สามารถเช็คได้ค่ะ)
1. แยกค่าใช้จ่าย จะเน้นนอน รพ เวลาเคลมต้องแบ่งรายจ่ายแต่ละอย่าง
2. สมาร์ทเฮลท์ จะค่อนข้างเหมาจ่าย มีแผน 1 และ 2
3. เอ็กซ์ตร้าแคร์ เป็นตัวที่ไว้เป็นท็อปอัพ
4. อุบัติเหตุ ไว้รักษา OPD และ IPD จากอุบัติเหตุเท่านั้น ข้อดีคือ OPD สามารถรักษาได้ตลอดตามวงเงิน (ไม่กำหนดวันที่ที่ไป รพ ค่ะ)
โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกแบบจากตารางได้ตามสะดวก 2 บรรทัดบน เลือกความคุ้มครองและการออมเงิน เช่นถ้าเลือก 2 แสนหมายถึงจะได้รับ 2 แสนเมื่อสิ้นสุดสัญญา โดยส่วนนี้ชำระเบียคงที่ 20 งวด เป็นเงินประมาณ 5 หมื่น ได้ส่วนตางประมาณ 150000 ค่ะ
จากนั้นมาเลือกสุขภาพ ชนิดต่างๆ เมื่อรวมกันแล้วจะเป็นเบี้ยบรรทัดล่างสุด (ต่อปี) ฝั่งสีเหลืองจะเป็นแบบแยกค่าใช้จ่าย เช่นมีค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ฯลฯ
ส่วนฝั่งสีฟ้า จะเป็นแบบสมาร์ทเฮลท์ กึ่งๆ น้องๆ อีลิทเฮลท์ค่ะ คือเป็นค่าห้อง และค่ารักษาแบบเหมาจ่ายครั้งละ 5 แสน โดยวงเงินต่อปี คือ 1 ล้านสำหรับแผน 1 และ 2 ล้านสำหรับแผน 2 ค่ะ
ที่เหลือเป็นแบบท้อปอัพ เช่น อุบัติเหตุ หรือ เอ็กซ์ตร้าแคร์ ซึ่งคือ ประกันเหมาจ่ายสำหรับจ่ายส่วนต่างที่เหลือจากการประกันแบบแยกค่าใช้จ่ายหรือประกันแบบสมาร์ทเฮลท์ กรณีไม่พอ จะใช้เอ็กซ์ตร้าแคร์เสริมค่ะ
สมาร์ทเฮลท์ ซื้อควบกับเอ็กซ์ตร้าแคร์ คือ แบบที่แนะนำ และเด็กๆ ทำกันมากที่สุดค่ะ
แบบเอ็กซ์ตร้าแคร์
เหมือนประกันท็อปอัพ คือ เอาไว้จ่ายส่วนต่างที่เกินจากแบบอื่นที่เรามีอยู่แล้ว โดยเราจะทำควบคู่กับแบบแยกค่าใช้จ่ายหรือสมาร์ทเฮลท์ เพื่อเคลมค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ แบบนี้เป็นแบบเหมาจ่ายที่เบี้ยถูกมากค่ะ ถึงจะมี deduct ส่วนแรก แต่เราก็เอาไปเคลมในแยกค่าใช้จ่ายหรือสมาร์ทเฮลท์แทนค่ะ (และตอนเคลม บริษัทจะออกในส่วน 80 และเรารับเอง 20% สุดท้ายค่ะ อาจเข้าใจยากนิดนึง ดูรูปด้านล่างประกอบนะคะ)ะ
สาเหตุที่แนะนำให้ทำเอ็กซ์ตร้าแคร์คู่กับประกันสุขภาพแบบอื่น เนื่องจากเป็นแบบที่เคลมได้เหมาจ่าย และเป็นวงเงินต่อครั้่ง (ไม่ใช่วงเงินรักษาต่อปี) หากน้องป่วยเข้า รพ. เดือนละครั้ง ถ้าทำแบบวงเงินเหมาจ่าย 200,000 ไว้ ก็จะได้วงเงินทั้งปี 2,000,000 บาทเลยทีเดียว โดยที่เบี้ยค่อนข้างถูกมากๆ ค่ะ
เนื่องจากประกันสุขภาพเด็กเล็กจะเริ่มรับประกันเมื่อเด็กอายุครบ 30 วัน จึงอยากแนะนำให้เตรียมทำเอกสารทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน พอลูกอายุครบ 30 วันปุ๊บรีบยื่นให้บริษัทพิจารณา เด็กจะได้ความคุ้มครองมากที่สุดค่ะเอกสารใช้สูติบัตรและสมุดฉีดวัคซีน ช่วงนี้ต้องฉีดวัคซีนให้ครบนะคะ ไม่งั้นอาจจะทำประกันสุขภาพไม่ได้ค่ะ
แบบของเด็กจะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดสนใจติดต่อทางโทรเพื่ออธิบายรายละเอียดได้หรือหากเป็นเด็กโตขึ้นก็จะมีเบี้ยถูกกว่านี้ แต่จะถูกลงมากน้อยแค่ไหน สอบถามโดยคลิกแบนเนอร์ด้านล่างนี้นะคะ
เขียนโดย ณภัชชา พงศ์วัฒนกิจกุล
นักวางแผนการเงิน คุณวุฒิ CFP® (Certified Financial Planner)
ผู้วางแผนการลงทุน (IP License) และ ผู้แนะนำการลงทุน (IC License)
ผู้จัดการขาย A+ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
หากใครมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามหรือปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อ และ ติดตามอัพเดตเรื่องน่ารู้ทางการเงินกับพี่แผน ได้ทาง
วางแผน.com (wangpaan.com)
Line: https://line.me/ti/p/S4ZgdTCQoS หรือ 0849290088
อย่าลืมกด Like, Follow และ Subscript จะได้ไม่พลาดข่าวสารสำคัญจากพี่แผนนะครับ